6 เทคนิคเลือกแว่นกันแดด เพื่อปกป้องดวงตาของคุณ

โรคตาที่เกิดจากรังสียูวี แบ่งได้เป็น 2 กลุ่ม 

          โรคที่เกิดในระยะสั้น หากดวงตาได้รับรังสียูวีที่มีความเข้มข้นสูงหรือนาน จะทำให้กระจกตาอักเสบ (photokeratitis) มีอาการแสบตา น้ำตาไหล แพ้แสง (photophobia) ตาแดง เจ็บตา รู้สึกเหมือนมีสิ่งแปลกปลอมอยู่ในตา
          โรคที่เกิดในระยะยาว รังสียูวีจะมีผลต่อทั้งผิวหนังรอบดวงตาและดวงตา เช่น ผิวหนังรอบดวงตาไหม้ มะเร็งผิวหนัง มะเร็งเม็ดสี ต้อลม ต้อเนื้อ ต้อกระจก

จะเลือกแว่นกันแดดดีๆ สักอันต้องดูอะไรบ้าง?

          หลักการเลือกซื้อแว่นกันแดดที่ดีนั้น มีคำแนะนำอยู่ 6 ข้อด้วยกัน ได้แก่

1. ป้องกันรังสียูวีได้

          การที่เราจะทราบว่าแว่นตากันแดดที่เราจะซื้อนั้นสามารถป้องกันรังสียูวีได้หรือไม่ มีวิธีสังเกตง่ายๆ โดยดูจากด้านในของขาแว่น ซึ่งจะมีสัญลักษณ์ตัวอักษร CE อันเป็นเครื่องหมายรับรองมาตรฐานยุโรปปรากฏอยู่

ข้อสังเกต

    • ตัวอักษร และ จะต้องมีความสูง 5 มิลลิเมตร

    • มีระยะห่างระหว่างกันเป็นค่าเฉพาะ

    • ตัวอักษรมีความโค้งเหมือนวงกลม และความโค้งด้านในของตัวอักษร จะต้องเท่ากับความโค้งด้านนอกของตัวอักษร E

ส่วนสัญลักษณ์ UV400 หรือ UV40 นั้นเป็นตัวบ่งชี้อัตราการกรองแสงของแว่นกันแดดที่สามารถปกป้องดวงตาได้ โดย UV400 เป็นเครื่องหมายที่แสดงถึงประสิทธิภาพการกรองแสงยูวีที่ดีที่สุด คือ สามารถป้องกันทั้งรังสียูวีเอและยูวีบีได้ 100%

2. ตัดแสงสะท้อนได้

          แว่นกันแดดที่ดีจะต้องสามารถตัดแสงสะท้อนได้ หรือเป็นแว่นโพลาไรซ์ เนื่องจากเลนส์แว่นตาทำจากวัสดุชนิดต่างๆ เช่น แก้ว หรือพลาสติก เวลาสวมใส่จะเห็นแสงสะท้อน แว่นตัดแสงสะท้อนจะช่วยทำให้ภาพคมชัดขึ้น ระดับการมองเห็นเพิ่มขึ้น และสบายตาขึ้นเมื่อสวมใส่

3. เลือกใส่ให้เหมาะกับกิจกรรม

          เลนส์ที่นิยมนำมาทำแว่นกันแดดมี 3 ชนิด คือ

    • เลนส์ CR39 เป็นเลนส์พลาสติกที่ใช้กันแพร่หลายที่สุด เพราะทนแรงขูดขีดได้ดี ช่วยป้องกันได้ทั้งรังสียูวี และอินฟราเรด

    • เลนส์ที่ทำจากแก้ว จะมีความใส และทนต่อแรงขูดขีดได้ดีกว่าเลนส์พลาสติก แต่มีข้อเสีย คือ น้ำหนักมาก และแตกได้ถ้ามีอุบัติเหตุรุนแรง

    • เลนส์พลาสติกชนิดโพลีคาร์บอเนต จะเบาที่สุด ทนต่อแรงกระแทกได้ดี มักใช้ในแว่นสำหรับสวมเล่นกีฬาหรือทำกิจกรรมผาดโผน ช่วยป้องกันอันตรายต่อดวงตาได้ดีที่สุด

4. สีของเลนส์แว่นกันแดด สีไหนมีคุณสมบัติอย่างไร?

    • สีดำ เหมาะกับกิจกรรมกลางแจ้งมากที่สุด

    • สีเทา ช่วยกรองแสงและตัดแสงจ้า ไม่ทำให้สีเพี้ยน เหมาะสำหรับการใส่ไปเที่ยวทะเล

    • สีส้มหรือสีเหลือง ช่วยให้มองภาพในเชิงลึกได้มากขึ้น แต่จะมีการเพี้ยนของสี ทำให้ไม่เหมาะสำหรับการใส่ขับรถ

    • สีน้ำตาล ทำให้มองเห็นสีและแสงธรรมชาติได้คมชัดขึ้น เพิ่มวิสัยทัศน์ในการมอง โดยเฉพาะในการขับขี่รถยนต์ หรือจักรยานยนต์

    • สีเขียว ช่วยกรองแสงและตัดแสงได้ดีเหมือนสีเทา ช่วยให้สบายตา เหมาะกับใส่ทำกิจกรรมกลางแจ้ง

    • สีชา และสีเทาดำ เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไป

5. เลือกกรอบแว่นให้เข้ากับใบหน้า

          รูปทรงใบหน้าของแต่ละคนจะมีลักษณะที่ต่างกันไป การเลือกกรอบแว่นเพื่อให้เหมาะสมมีคำแนะนำ ดังนี้

    • ใบหน้าเหลี่ยม ควรใส่แว่นกรอบทรงโค้งกลม

    • ใบหน้ากลม ควรใส่แว่นกรอบใหญ่ เพื่อปิดโหนกแก้ม จะทำให้หน้าดูเด็กลง และเน้นแว่นทรงเหลี่ยม

    • ใบหน้ายาว ควรใส่แว่นกรอบรี ปิดบริเวณรอบดวงตาได้หมด

    • ใบหน้ารูปไข่ สามารถใส่กรอบแว่นได้ทุกแบบ จะให้ดูดีที่สุดควรใส่ทรงเหลี่ยมกรอบสีอ่อน

          ส่วนขนาดของกรอบ ควรเลือกกรอบที่ใหญ่ และขาแว่นด้านข้างกว้าง จะช่วยปกป้องผิวรอบดวงตาได้มากขึ้น แว่นกันแดดที่ดีควรปิดแสงได้ทุกด้าน

6. ลองใส่แว่นก่อนตัดสินใจซื้อ

         แนะนำว่า ควรลองใส่แว่นเดินไปมา ก้ม-เงยดูว่าไม่ลื่นไหล และเช็กว่าเลนส์อยู่แนบกรอบเลนส์ หรือมีขาเลนส์บิดเบี้ยวหรือไม่

          “ประสิทธิภาพของแว่นกันแดดในการป้องกันแสงยูวีนั้น โดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 2 ปี”
          ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความถี่ในการใช้ ถ้าใส่บ่อยอาจเสื่อมเร็วขึ้น เป็นความจริงที่ว่า รอยขีดข่วนแม้เพียงเล็กน้อยก็สามารถให้แสงผ่านแว่นกันแดดเข้าไปถึงดวงตาได้ ดังนั้นการดูแลรักษาแว่นไม่ให้มีรอยขีดข่วน และการเก็บไว้ในกล่องแว่นที่เหมาะสมจึงเป็นอีกข้อที่จะช่วยคงประสิทธิภาพการใช้งานของแว่นกันแดดได้

สำหรับเลนส์ย้อมสี (tint lenses) นั้น สีที่จางลงจะเป็นอีกหนึ่งตัวบ่งชี้ที่ช่วยบอกเราว่า ถึงเวลาที่ควรมองหาแว่นกันแดดใหม่ได้แล้ว

          แม้จะมีแว่นกันแดดที่ดีและได้มาตรฐาน แต่สิ่งที่ควรปฏิบัติ คือ สวมใส่แว่นกันแดดเสมอเมื่อออกไปข้างนอก ไม่ว่าจะเป็นวันที่มีเมฆ ฟ้าปิด หรือแดดออก โดยเฉพาะในช่วงเวลา 10.00-16.00 น. ซึ่งจะมีปริมาณรังสียูวีที่เข้มข้นมากที่สุด นอกจากนี้การสวมแว่นกันแดดในเด็กนั้นก็มีความสำคัญเช่นเดียวกัน

          อย่างไรก็ตาม การสวมแว่นกันแดดเพื่อป้องกันเพียงอย่างเดียวอาจยังไม่เพียงพอ ควรหลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีความเข้มของแสงยูวีสูงด้วย เช่น การอยู่กลางแจ้งนานๆ ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ควรสวมหมวกปีกกว้าง หรือการร่มร่วมด้วย และที่สำคัญที่สุด คือ อย่าลืมเปลี่ยนแว่นกันแดดทุกๆ 2 ปี

About the Author

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

You may also like these